เพื่อนๆคนไหนเคยประสบปัญหากลิ่นตัว เหงื่อเยอะ กันบ้างไหมคะ ทำให้หมดความมั่นใจไม่กล้ายกแขน ใช้ชีวิตไม่เต็มที่ กลายเป็นปัญหาและเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียบุคลิกไปเลย เพราะนอกจากจะมีกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์แล้ว เหงื่อที่ไหลมาจากใต้วงแขนยังส่งผลให้รักแร้ดำคล้ำขึ้นอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะวันนี้ผู้เขียนอยากจะมาแชร์ความรู้ดีๆเป็นแนวการแก้ไขให้เพื่อนๆกันค่ะ
สาเหตุของกลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากใต้วงแขนเกิดจากอะไร?
โดยทั่วไปแล้วกลิ่นตัวหรือเหงื่อออกมาเยอะในบริเวณใต้วงแขน มักจะเกิดจากที่ร่างกายพยายามระบายความร้อนออกมา หรือการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อน อบชื้น เช่น การออกกำลังอย่างหนัก หรือตอนที่รู้สึกวิตกกังวลก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งอาการกลิ่นไม่พึ่งประสงค์นี้ที่ได้กล่าวมานั้นถือว่าเป็นเกณฑ์ปกติของมนุษย์ แต่หากไม่ได้เกิดจากสาเหตุดังกล่าวมานี้ อาจจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย เช่นเกิดจากพันธุกรรม หรือเกิดจากโรคประจำตัวต่างๆ ไม่ว่าจะโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจเรื้อรัง ซึ่งทำให้คนในปัจจุบันหันมาหาวิธีการรักษา โดยใช้วิธีโบท็อกซ์รักแร้เพื่อช่วยลดเหงื่อและกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีนั่งเองค่ะ
สามารถจัดการกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ วิธีไหนได้บ้าง?
- ทายา แอนทีเพอร์สะพิรันท์ (ยาลดการขับเหงื่อ)ในจุดที่เหงื่อออกมาก เพื่อทำหน้าที่ช่วยอุดต่อมเหงื่อและช่วยลดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์
- ใช้ยาที่ทำหน้าที่ลดการทำงานระบบประสาท
- ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อโดยตรง
- ผ่าตัด จี้ปมประสาทของระบบประสาทที่ควบคลุมต่อมเหงื่อ
นอกจากนี้ ยังมีวิธีที่สามารถทำเองได้เช่นกันค่ะ เป็นวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นง่ายๆ
- หาเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- รักษาความสะอาดโดยการอาบน้ำ 2ครั้งต่อหนึ่งวัน
- ดูแลเสื้อผ้าไม่ให้เกิดการเหม็นอับ เพราะแหล่งเหม็นอับเหล่านี้-เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่รสชาติจัด หรือเครื่องเทศ
โบท็อกซ์รักแร้ คืออะไร?
การฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณใต้รักแร้ โดยจะฉีดฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินในปริมาณตามเหมาะสมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยลดเหงื่อที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ได้ถึง 35-80% กันเลย
โบท็อกซ์รักแร้สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?
ความจริงแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ตั้งแต่ตัวยาที่เลือกใช้รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีเทคนิคในการฉีดอุดต่อมเหงื่อได้ถูกจุดพอดีหรือไม่
แต่โดยปกติแล้วประสิทธิภาพของตัวยา Botox Xeomin แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ 1-3 วัน และยังคงผลลัพธ์นาน 4-6 เดือนค่ะ และจะสลายไปตามธรรมชาติโดยไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆค่ะ
พออ่านมาถึงจุดนี้คงอาจจะทำให้เพื่อนๆ เริ่มอยากจองคิวหาคุณหมอกันแล้วใช่ไหมคะ แต่ก่อนจะจองกัน! ผู้เขียนของฝากไว้อีกสักนิดว่า…เพื่อนๆควรจะศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อน ประเมินสถานให้บริการความงามด้วยว่า สะอาด ปลอดภัยหรือไม่ เพราะถ้าไปเจอหมอกระเป๋าละก็อาจจะส่งผลเสียให้เกิดอาการติดเชื้อขั้นรุนแรงได้ และเพื่อเป็นทางที่ดี คุ้มค่า และปลอดภัยควรจะปรึกษาคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การรักษาโดยตรงจะดีมากกว่าค่ะ เพื่อให้คุณหมอช่วยแนะนำแนวทางรักษา และประกอบการตัดสินใจของเพื่อนได้ดีอีกด้วย (เพราะในท้องตลาดมีแบรนด์โบท็อกซ์อยู่หลากหลาย ประสิทธิภาพก็ต่างกัน)