ผลัดเซลล์ผิวดีอย่างไร (Peeling)

ผลัดเซลล์ผิวหน้า ให้กระจ่างใส เรียบเนียน รูขุมขนไม่อุดตัน ไร้รอยสิว รอยดำ และรอยแผล

ปกติคนเราเมื่ออายุเริ่มเข้าช่วงวัย 20 ปีเป็นต้นไป การผลัดเซลล์ผิวแบบธรรมชาติจะเกิดขึ้นทุก 28 วัน แต่พออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการทำงาน ความสามารถ และประสิทธิภาพ ในการผลัดเซลล์ผิวแบบธรรมชาติจะเสื่อมถอยลง กว่าที่เซลล์ผิวเก่าจะหลุดลอกออกไปได้หมดก็ใช้เวลานานขึ้น เลยทำให้เซลล์ผิวใหม่ไม่สามารถขึ้นมาทดแทนได้ และนั้นก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ใบหน้าที่หมองคล้ำจากแสงแดดและมลภาวะในแต่ละวันยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก การผลัดเซลล์ผิว (Peeling) จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

การผลัดเซลล์ผิวช่วยอะไรบ้าง?

  • ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดและกระจ่างใสขึ้น
  • ขจัดปัญหารูขุมขนอุดตัน สาเหตุของการเกิดสิว
  • ผิวหน้าเรียบเนียน รอยสิว รอยดำ รอยแผลที่อยู่บนชั้นผิวจางลง
  • ช่วยให้ผิวหน้าสามารถซึมซับสกินแคร์บำรุงผิวได้อย่างเต็มที่

เราสามารถแบ่งการผลัดเซลล์ผิวได้ 2 วิธี

1. การผลัดเซลล์ผิวโดยใช้อุปกรณ์ช่วย (Physical Peeling)

เป็นวิธีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ด้วยเครื่องมือกรอผิวด้วยผงคริสตัล หรือเกร็ดอัญมณี ซึ่งการกรอผิว หรือ การขัดผิว เป็นการผลัดเซลล์ผิวเซลล์ที่ตายแล้วออกไปโดยจะเป็นกระบวนการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่มาทดแทน แต่วิธีนี้ไม่ค่อยได้รับนิยม เพราะอาจส่งผลให้ให้เกิดรอยแดง และระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย

2. การผลัดเซลล์ผิวโดยใช้สารเคมี (Chemical Peeling)

อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมใช้กันมากในสถาบันคลินิกเสริมความงาม โดยเป็นการผลัดเซลล์ผิวแบบสารเคมี เพื่อช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวหนังบนใบหน้าให้ลอดหลุดง่ายขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดแผล

สารเคมีที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ผลัดเซลล์ผิวมี 3 ชนิด

  1. AHA (Alpha Hydroxy Acid) หรือกรดไกลโคลิค (Glycolic acid) เป็นการนำกรดที่อยูในผลไม้มาช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป และกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาทดแทนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมยังช่วยซ่อมแซมเสริมสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน ในชั้นหนังแท้ ซึ่งทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใส รอยจุดด่างดำ และรอยสิว จางหาย เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  2. BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดลอกเร็วขึ้น ช่วยปรับรูขุมขนให้เล็กลง ลดการอุดตันสาเหตุของการเกิดสิว แต่การใช้กรด BHA จะทำให้ความรู้สึกระคายเคืองมากกว่ากรด AHA และทำให้ผิวแห้ง ลอกออกมาเป็นขุย จึงไม่ค่อยนำมาใช้ทำหัตถการทรีตเมนต์ แต่นิยมนำไปรักษาการลอกหูด และทาผิวเท้าที่หนาแตกแห้งกร้านมากกว่า
  3. TCA (Trichloroacetic Acid) เป็นการผลัดเซลล์ด้วยการแต้มกรดtca เนื่องจากให้ผลลัพธ์ในเรื่องลดริ้วรอย ฝ้า และกระ นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในการนำใช้รักษาหลุมสิวด้วย โดยการแต้มกรดลงไปในหลุมสิว ทิ้งไว้ 3-4 นาที แล้วล้างออก หลังจากนั้นก็จะเกิดเป็นรอยด่างขาว ละตามมาด้วยสะเก็ดแผลเป็นสีน้ำตาลในอีก 3-4 วันให้หลัง ก่อนจะค่อยๆ หลุดออกมาเองโดยธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้หลุมสิวจะตื้นขึ้น และรูขุมขนดูกระชับ

อย่างไรก็ตาม วิธีที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงแค่ข้อมูลสำหรับช่วยประกอบในการตัดสินใจ ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีการเหล่านี้ อย่าได้หาทำเอง เพื่อนๆ ควรเข้าไปปรึกษากับคุณหมอก่อน เพื่อประเมินปัญหา และแนะนำแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและแม่นยำกว่า

แชร์บทความนี้