ริ้วรอยบนใบหน้าที่ดูจะสร้างปัญหาหนักใจได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นริ้วรอยบนหน้าผาก นอกจากจะทำให้หน้าดูดุ-ดูเครียดแล้ว ยังทำให้โดยรวมไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยโบท็อกซ์นาโบตะ แต่จะเป็นอย่างไรก็มาดูกัน

ริ้วรอยบนหน้าผากมี 2 แบบ

1. ริ้วรอยตื้น มีสาเหตุจากผิวขาดความชุ่มชื้น มีการชะล้างทำความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป หรือจากมลภาวะ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยลักษณะเป็นเส้นริ้วรอยบางๆ บนผิวชั้นหนังกำพร้า

2. ริ้วรอยร่องลึก เกิดจากความหย่อนคล้อยของโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้ลงไป มีการลดลงของคอลลาเจนในผิวและการเปลี่ยนแปลงของอิลาสตินตามธรรมชาติจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากการแสดงสีหน้าต่างๆ

สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนหน้าผาก

หลักๆแล้วริ้วรอยบนหน้าผาก เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุให้ผิวเสื่อมโทรมจนดูแก่กว่าวัยได้ เช่น แสงแดด มลภาวะ การสูบบุหรี่กินเหล้า การแสดงสีหน้า รวมถึงความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งยิ่งทิ้งเวลาให้ผ่านไปยิ่งทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ยิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ

การป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยหน้าผาก

1.หลีกเลี่ยงแสงแดด ที่เป็นตัวการทำร้ายเกราะป้องกันผิว ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
2.งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
3.งดชาหรือกาแฟ
4.รับประทานอาหารบำรุงผิว เช่น กล้วย อะโวคาโด แตงกวา มะละกอ ราสเบอร์รี่ องุ่นแดง ฟักทอง เป็นต้น
5.ดื่มน้ำมากๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
6.ไม่เครียด

วิธีลดริ้วรอยหน้าผากด้วยโบท็อกซ์นาโบตะ

เราสามารถจัดการกับริ้วรอยหน้าผากได้อย่างตรงจุดด้วยการฉีด โบท็อกซ์นาโบตะ ซึ่งหลังฉีดแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ริ้วรอยก็จะหายไป เวลาที่เราขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าต่างๆ ก็ไม่เกิดริ้วรอย

ข้อดีของการลดริ้วรอยหน้าผากด้วยโบท็อกซ์นาโบตะ คือ เห็นผลเร็ว โดยผิวจะเริ่มตึงภายใน 3-4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเต็มที่หลังฉีดประมาณ 7-14 วันเท่านั้น โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 6-8 เดือนเลยทีเดียว

ข้อควรระวัง คือเลือกฉีดกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ และฉีดโดยแพทย์เท่านั้น ไม่ควรฉีดกับหมอกระเป๋า หรือหมอเถื่อน เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ตัวยาจะกระจายไปโดนกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ไม่ต้องการ รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากการแพ้โบท็อกซ์อีกด้วย