รวมผลไม้ช่วยผิวสวยใส

 

รวมผลไม้ช่วยผิวสวยใส ทานอะไรดีมีประโยชน์ ดีทั้งภายในและภายนอก

 
หลายๆท่านอาจทราบกันอยู่แล้วว่า ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังช่วยในเรื่องการขับถ่าย เรื่องโรคภัยต่างๆ แต่ในปัจจุบันไม่เพียงแต่สุขภาพดีเท่านั้น ผู้คนยังให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำผลไม้ช่วยผิวสวยใส แถมยังสามารถรับประทานได้ทุกวัน ซึ่งส่งผลดีในการดูแลผิวพรรณแบบธรรมชาติ ผลไม้แต่ละชนิดจะมีอะไรกันบ้าง มาดูกัน!

 

1. อะโวคาโด (Avocado)

นักพฤกษศาสตร์ได้จัดให้อะโวคาโดเป็นผลไม้กลุ่มดรูป (Drupe) หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่มีเมล็ดเดียว (Single-seeded Berry) เช่นเดียวกับเชอร์รี ลูกพีช หรือมะกอก ถึงจะอยู่ในตระกูลเบอร์รี่แต่ อะโวคาโดมีไขมันที่สูงแต่เป็นไขมันดี นับว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก อะโวคาโดมีวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี และวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยให้มีริ้วรอยลดน้อยลง ผิวสดใส สุขภาพผิวแข็งแรง อะโวคาโดยังมีกรดไขมันชั้นดีที่เป็นส่วนช่วยทำให้ผิวเนียน ไม่แห้งกร้าน นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น

2. มะละกอ (Papaya)

มะละกอ เป็นผลไม้บำรุงผิวที่นิยมนำไปทำเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ มะละกอ อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง วิตามินเอ วิตามินบี 1 และบี 2 มีเส้นใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งเบต้าแคโรทีนในมะละกอยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอและ เอนไซม์พาเพอินที่สามารถพบได้มากในมะละกอ มะละกอสามารถช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดความหยาบกร้านของผิวได้ นอกจากนี้ ยังช่วยซ่อมแซมผิวที่สึกหรอ ช่วยลด และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และยังสามารถช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สดใส อิ่มน้ำ

3. ฝรั่ง (Guava fruit)

ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่นิยมทานในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือต้องการคุมอาหาร ฝรั่งเป็นผลไม้บำรุงผิวที่มีคุณค่าทางโภชนาการและการบำรุงผิวไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น แถมยังเป็นผลไม้ที่สามารถช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงมีส่วนช่วยเสริมให้สุขภาพร่างกายและผิวพรรณดีขึ้นได้
ฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1, บี 2, บี 3 และวิตามินซี นอกจากนี้ ยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร กรดโฟลิก ฝรั่งนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงไม่แพ้ส้ม ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลด และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย แถมยังมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยให้ผิวพรรณกระชับ เต่งตึง อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีอีกด้วย

4. ส้ม (Orange)

ส้ม เป็นผลไม้ที่สามารถทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสด คั้น สกัดเย็น หรือสมูทตี้ โดยการทานแบบสดจะได้รับประโยชน์จากส้มมากที่สุด อุดมไปด้วยวิตามินซีเป็นหลัก และถือเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6 และบี 9 ส้มมีคุณสมบัติในการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวกระชับ และมีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย การรับประทานส้มยังสามารถช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี อิ่มน้ำ และดูชุ่มชื้น ช่วยเสริมให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ และสดใส มากยิ่งขึ้น

5. แอปเปิล (Apple)

แอปเปิล เป็นผลไม้ที่นิยมทานเพื่อลดหรือควบคุมน้ำหนัก อุดมไปด้วยเพคติน มีอิลาสติน คอลลาเจน วิตามินเอ วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6 วิตามินซี ไฟเบอร์ และเส้นใยอาหาร ทำให้ผิวเต่งตึง ขาวใส เปล่งปลั่ง การทานแอปเปิ้ลเป็นทางออกที่ดีของคนที่รักสุขภาพ ที่ได้ทั้งภายนอกและภายใน

อย่างไรก็ตามการทานผลไม้ ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะนอกจากประโยชน์แล้ว ในผลไม้ก็ยังคงมีน้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลให้มีอินซูลินในเลือดสูงมากขึ้นตามไปด้วย ภาวะนี้จะนำไปสู่การมี insulin-like growth factor 1 (IGF-1) ในเลือดสูงขึ้น ทำให้ผิวหนังแบ่งตัวเร็วและหนาตัว จึงทำให้เกิดก้อนไขมันอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวตามมา หากหลายๆท่านชอบทานผลไม้หวานๆแล้วอาจจะต้องลดปริมาณน้อยลง เพื่อไม่ให้ส่งผลให้เกิดสิวในภายหลัง

 

ตัวอย่างโทษจากการทานน้ำตาลมากจนส่งผลต่อผิว

เมื่อเราทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ จะส่งผลให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้น ซึ่งอินซูลินช่วยกระตุ้น ฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือ ฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งจะกระตุ้นการผลิตไขมันส่วนเกิน โดยฮอร์โมนนี้จะทำให้ผิวหนังผลิตความมัน ทำให้ผิวของเรามีความมันมากเกินไป เมื่อรวมกับเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว เข้าไปอุดตันในรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบและก่อตัวกลายเป็นสิวในที่สุด หากถามว่าสิวน่ากลัวอย่างไรนั้น เมื่อเกิดการอุดตันและไม่ได้รับการรักษา สิวที่เกิดการอักเสบขยายวงกว้างมากขึ้น จนลามไปทั่วใบหน้าการรักษาก็จะอยากขึ้นผลที่ตามมาจากเล็กๆน้อยๆอาจกลายเป็นแผลเป็น เป็นหลุมสิว และผิวที่ไม่สวยงามอีกต่อไป การรักษาหลุมสิวเป็นเรื่องที่ยากวิธีการรักษาแบบธรรมชาติได้ผลน้อยมาก ทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นจะดีที่สุดนะคะ