กินอย่างไรให้สุขภาพดี? กินอย่างไรให้หน้าเด็ก?

อาหารการกินนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้นอาหารก็มีทั้งดีและทั้งโทษปะปนกันไป เมื่อเราอายุมากขึ้น เรายิ่งจะต้องเลือกอาหารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งจะส่งผล ทำให้มีผิวพรรณที่ดี ดูอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอยลงได้ และหน้าเด็กลงได้นั้นเอง

4 อาหารต้านแก่

1. วิตามินซี มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง มีผลต่อการชะลอวัย ช่วยปกป้องผิว เนื่องจากมีส่วนกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นปัจจัยหลักในการป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยนั่นเอง พบมากในผักผลไม้ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ แบล็คเคอแรนท์ มะเขือเทศ ส้ม มะนาวมะละกอ กีวี บร็อคโคลี่ พริก เป็นต้น
2. แอสตาแซนธิน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าสารอื่นๆ ราว 100-500 เท่าเลยทีเดียว ช่วยลดริ้วรอยด้วยการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว พบมากในสาหร่ายสีแดง (ฮีมาโตค็อกคัส), แซลมอน, เทราต์, คาเวียร์, กุ้ง ปู ล็อบสเตอร์ เป็นต้น ทว่าแอสตาแซนธินมีผลข้างเคียงเยอะ ควรทานให้ปริมาณที่เหมาะสม
3. พรีไบโอติก เป็นอาหารของจุลินทรีย์ภายในลำใส้ ที่จะช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย บางชนิดสามารถช่วยลดสิวและริ้วรอยแห่งวัยได้ด้วย โดยเราควรทานพรีไบโอติกจากหลากหลายแหล่ง พบมากใน กระเทียม หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง กล้วย แอปเปิ้ล ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต เมล็ดแฟล็กซ์ โกโก้ สาหร่าย รำข้าวสาลี เป็นต้น
4. คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบของผิวหนังถึง 75% ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจะลดลงและเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย จึงควรเลือกทานคอลลาเจนเข้าไปทดแทน พบมากใน เนื้อไก่ ปลาและสัตว์ทะเลมีเปลือก กระเทียม ไข่ขาว ผลไม้ตระกูลส้ม เบอร์รี่ อโวคาโด ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว มะเขือเทศ พริกหวาน รวมถึงน้ำซุปกระดูกสัตว์ (ปลา หมู เนื้อ ไก่)

ซึ่งนอกจากจะรับประทานอาหารที่มีประโยชร์ต่อผิวแล้ว เราก็ยังควรจะดูแลผิวในด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม ลดความเครียด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง เพื่อช่วยให้กระบวนการชะลอวัยนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อาหารที่ควรเลี่ยง เสี่ยงโรคร้าย

• แป้ง

เป็นอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต หากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย และก่อให้เกิดโรคอ้วน สหรัฐอเมริกา (FDA) ที่ระบุว่าควรบริโภคอาหารประเภทแป้งไม่ควรเกิน 300 กรัม/วัน

• อาหารรสจัด

การที่เรากิน เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งนั้น ก่อให้เกิดโรคกรดไหลย้อน และทำให้ไตทำงานหนักขึ้น

• ของทอด

ทำให้เกิดโรคอ้วน ลงพุง และความดันโลหิตสูง และยังมีผลทำให้ร่างกายสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่กำลังรักษาหลุมสิว

• ของหมักดอง

ส่งผลให้เกิด อาการท้องเสีย ท้องร่วงบ่อย หากรับประทานในปริมาณมากๆ

• น้ำตาล และผลไม้ที่มีรสหวาน

น้ำตาลคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคร้าย เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง