ตาดำเพราะภูมิแพ้ แก้อย่างไรดี แก้ตาคล้ำหายได้จริงไหม?
เชื่อว่า มีหลายๆคนพบเจอปัญหานี้ เพราะบทความนี้เหมาะกับชาวภูมิแพ้มากที่สุด จะบอกเลยว่าปัญหานี้พบเจอได้บ่อยๆ เนื่องจากปัญหาขอบตาดำที่เกิดจากภูมิแพ้ บางคนเป็นตั้งแต่กำเนิดจากพันธุกรรม บางคนเป็นเพราะปัจจัยของสภาพอากาศ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างหนัก บางคนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว และปัญหาที่จะเห็นและพบเจอในกลุ่มคนที่เป็นภูมิแพ้บ่อยๆนั้นคือ จะมีลักษณะขอบใต้ตาคล้ำเหมือนหมีแพนด้าอยู่ตลอด จะใช้สกินแคร์เพื่อบำรุงและรักษาใต้ตาให้กลับมาดูสดใสกี่ตัวไม่หาย วันนี้เราจึงอยากพาเพื่อนๆไปไขความลับ ตาดำหมีแพนด้าจากโรคภูมิแพ้กันว่าเกิดจากอะไร และสามารถรักษาใต้ตาดำแบบนี้ให้ตรงจุดอย่างไร งั้นตามกันมาเลย
ใต้ตาคล้ำเพราะภูมิแพ้ เกิดจากอะไร?
จะสามารถสังเกตคนที่ภาวะขอบตาดำเรื้อรังจะมีลักษณะขอบตาดำคล้ำเหมือนขอบตาของหมีแพนด้า ซึ่งสภาวะนี้สามารถเกิดได้จากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้อากาศ ซึ่งร่างกายของเรานั้นมีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ที่หายใจเข้าไป เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ เมื่อเราหายใจเอาสารกระตุ้นภูมิแพ้เหล่านี้เข้าไปก็จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารฮิสตามีนออกมาเยอะ จึงทำให้เกิดขอบตาคล้ำนั่นเอง ซึ่งผู้ที่มีอาการเรื้อรัง น้ำมูกไหล คัดจมูก เยื่อบุจมูกที่เรียกว่าเทอร์บิเนตจะบวมขึ้น ทำให้เลือกดำไหลผ่านได้ยาก เลือดดำจึงไหลมาคั่งที่บริเวณขอบตาล่าง ส่งผลให้ขอบตาเป็นสีดำได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดขอบตาคล้ำได้เช่นกันนะคะ เช่น
- อายุ เมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ถุงใต้ตาของเรานั้นก็จะเริ่มหย่อนยาน ทำให้เกิดเป็นเงาทับบริเวณขอบตาและผิวบริเวณใต้รอบดวงตานั้นบางลงจนเห็นเส้นเลือดและขอบตาที่คล้ำมากขึ้นได้
- ความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ความเครียดที่สะสม หรือคนที่ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ สามารถทำให้ดวงตาบุ๋มเป็นเบ้าลึกมากขึ้นจนสามารถเห็นรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีอาการซ้ำบริเวณรอบดวงตา หากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็อาจจะทำให้เป็นขอบตาคล้ำถาวรได้
- เกิดจากการระคายเคืองรอบดวงตา ให้ระคายเคืองบริเวณรอบดวงตาและเผลอทำให้ขยี้ตาอย่างรุนแรงทำให้ตาซ้ำส่งผลให้เกิดขอบตาคล้ำ
- ภาวะขาดน้ำหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด เมื่อร่างกายไม่ได้รับน้ำที่เพียงพออาจจะส่งผลให้ผิวไม่ขาวกระจ่างใส ผิวโทรมไม่สดใส
- ภาวะการตั้งครรภ์ เมื่ออยู่ในช่วงการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนร่างการจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเหมือนกันที่ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตามีการเปลี่ยนแปลง เป็นสภาวะที่คุณแม่บางคนอาจจะดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นแต่บางคนก็มีผิวที่โทรมเพราะเป็นผลจากฮอร์โมน
- การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ชีวิตที่หนักหน่วงไม่ว่าจะการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ นั่นสามารถส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว ทำให้เกิดรอยล้ำใต้ตาได้
ขอบตาดำคล้ำ จากภูมิแพ้ สามารถรักษาได้หรือไม่?
ภาวะขอบตาดำ ที่มีสาเหตุหลักมาจากโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบ ควรรีบไปรักษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานอาจส่งผลให้เกิดขอบตาดำถาวรหรือเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง รวมถึงมีผลต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกด้วย โดยวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบสามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ยารักษาภูมิแพ้ โดยเฉพาะ ยาพ่นจมูก
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่สามารถก่อภูมิแพ้
- เข้ารับการทดสอบผิวหนัง เพื่อหาสารก่อภูมิแพ้
- พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขอบตาดำ จากโรคภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุด
- ใช้เครื่องกรอกอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยกรอกสิ่งแปลกปลอมหรือสารกระตุ้นก่อการแพ้
- ซักเครื่องนอนด้วยน้ำร้อนเป็นประจำ เพื่อกำจัดตัวไรฝุ่นที่อยู่ในที่นอน
- ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อช่วยให้อากาศสดชื่น ช่วยระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น
- ล้างจมูกเป็นประจำ เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงน้ำมูก และสารคัดหลั่งอื่นๆ ออกจากโพรงจมูก
- หยอดน้ำตาเทียม เพื่อล้างสารก่อภูมิแพ้ออกจากดวงตา
เอาล่ะ พอจะเข้าใจระดับหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ ว่าขอบใต้ตาคล้ำสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นไม่ได้เกิดจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เกิดมาจากภูมิคุ้มกันในร่างการที่ทำงานต่อต้านสิ่งที่ร่างกายแพ้ต่างหาก อย่างไรก็ตามการนอนหลับให้เพียงพอก็ยังเป็นนสิ่งที่สำคัญ และเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดขอบตาคล้ำได้เท่านั้น
สำหรับวิธีการรับมือกับปัญหาขอบตาคล้ำ ใต้ตาดำ จะขึ้นอยู่กับสาเหตุ และปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตา โดยวิธีที่อาจช่วยแก้ไขปัญหาได้ เช่น
- การนอนหลับผักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดจนเกินไป
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยป้องกันภาวะขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อไม่ให้แสงแดดกระตุ้นการสร้างเม็ดสี และพยายามหมั่นทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน
- จัดองศาของหมอนหนุน โดยยกศีรษะให้สูงขึ้นประมาณหนึ่งระดับ เพื่อช่วยลดปริมาณของเหลวที่สะสมอยู่บริเวณใต้ตาได้
- การจัดองศาของหมอนรองคอให้สูงขึ้น จะเป็นการยกศีรษะประมาณหนึ่งระดับ จะช่วยลดปริมาณของเหลวที่สะสมอยู่บริเวณใต้ตาได้
- ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวจนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา
- พบและปรึกษาเเพทย์ผู้เชียวชาญโดยตรงเพื่อรักษาให้ตรงจุด โดยทดสอบสารก่อกระตุ้นการแพ้
- รักษาด้วยเลเซอร์ การยิงเลเซอร์เพื่อกระชับผิว จะช่วยกำจัดส่วนเกินของถุงใต้ตา และทำลายเม็ดสีบริเวณใต้ดวงตา
- การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยเติมเต็มเบ้าตาที่ลึก และความคล้ำใต้ตาได้ดี
ก่อนที่จากกันไป อยากฝากไว้ให้คิดกันอีกสักนิด ขอบตาคล้ำนั้นไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงนัก แต่เพื่อนๆ ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งปัญหานี้ไว้นาน เพราะจะทำให้ปัญหานั้นบานปลาย และแก้ไข้ไม่ทันเวลา หากมีเวลาควรปรึกษาคุณหมอผู้เชียวชาญจะดีที่สุด เพื่อให้ได้รับคำแนะนำและการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดจะดีมากกว่า